Pride and Prejudice: นิยายอมตะของเจน ออสเตน ที่ยังคงตราตรึงใจผู้อ่าน
Pride and Prejudice หรือชื่อภาษาไทยว่า ความจองหองและอคติ เป็นนวนิยายโรแมนติกคลาสสิกที่แต่งโดย เจน ออสเตน นักเขียนชาวอังกฤษผู้โด่งดัง ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1813 เรื่องราวของ Pride and Prejudice นั้นเกิดขึ้นในสังคมชั้นสูงของอังกฤษในยุค Regency ที่การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญยิ่งสำหรับสตรี และมักจะถูกมองว่าเป็นการจับคู่เพื่อผลประโยชน์ทางสังคมมากกว่าความรัก
เรื่องย่อ
นวนิยายเปิดฉากขึ้นด้วยประโยคอันโด่งดังว่า "It is a truth universally acknowledged, that a single man in possession of a good fortune, must be want of a wife." หรือแปลเป็นไทยได้ว่า "เป็นความจริงที่ยอมรับกันทั่วไปว่า ชายโสดผู้เป็นเจ้าของสินสมบัติอันมั่งคั่งย่อมอยู่ในฐานะที่ต้องการภรรยา" ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมในสังคมยุคนั้นได้เป็นอย่างดี
เรื่องราวของ Pride and Prejudice หมุนรอบตัวละครหลักสองคนคือ เอลิซาเบธ เบนเน็ต หญิงสาวฉลาดเฉลียว มีอารมณ์ขัน และ มิสเตอร์ฟิตซ์วิลเลียม ดาร์ซี ชายหนุ่มร่ำรวย แต่หยิ่งผยอง ทั้งสองมีอคติต่อกันตั้งแต่แรกพบ และความเข้าใจผิดต่างๆ นานา ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ต้องเผชิญอุปสรรคมากมาย แต่ในที่สุดความรักและการเรียนรู้ที่จะเข้าใจซึ่งกันและกันก็ทำให้ทั้งคู่สามารถเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นได้
เหตุผลที่ทำให้ Pride and Prejudice เป็นนวนิยายอมตะ
- ตัวละครที่มีมิติ: ตัวละครในเรื่องล้วนมีบุคลิกที่น่าสนใจและซับซ้อน โดยเฉพาะเอลิซาเบธและดาร์ซี ที่ผ่านการพัฒนาตัวละครอย่างเห็นได้ชัดตลอดเรื่อง
- เรื่องราวที่น่าติดตาม: เนื้อเรื่องของ Pride and Prejudice นั้นเต็มไปด้วยความโรแมนติก ความขัดแย้ง และความตลกขบขัน ทำให้ผู้อ่านติดตามได้อย่างไม่น่าเบื่อ
- สะท้อนภาพสังคม: นวนิยายเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงภาพของสังคมอังกฤษในยุคนั้นได้อย่างคมชัด ทั้งเรื่องของค่านิยม การแต่งงาน และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
- ภาษาที่สวยงาม: ภาษาที่เจน ออสเตนใช้ในการเขียนนั้นงดงามและมีเอกลักษณ์ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเพลิดเพลินไปกับการอ่าน
ความนิยมและอิทธิพล
Pride and Prejudice ได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ตีพิมพ์ และยังคงเป็นหนึ่งในนวนิยายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตลอดกาล เรื่องราวของเอลิซาเบธและดาร์ซีได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และละครเวทีมาแล้วหลายครั้ง และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเขียนรุ่นหลังอีกมากมาย
สรุป
Pride and Prejudice เป็นนวนิยายที่ควรค่าแก่การอ่าน ไม่ว่าจะเป็นผู้อ่านรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า เพราะเรื่องราวของความรัก ความเข้าใจ และการเติบโตของตัวละครนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนสามารถสัมผัสได้ และแม้ว่าเรื่องราวจะเกิดขึ้นในยุคสมัยที่แตกต่างออกไป แต่ค่านิยมและบทเรียนชีวิตที่ได้จากนวนิยายเรื่องนี้ยังคงมีความหมายและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านในปัจจุบัน